เที่ยวเวียดนาม
รวมทุกสถานที่ที่คุณควรไป

สถานที่ 1
ดานัง
ดานัง (Danang) เมืองท่าติดทะเลที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเวียดนาม ทะเลสวย มีชายหาดทรายสีขาวทอดยาว สถานที่เที่ยวในดานังนั้นหลากหลายมากๆ เพราะที่นี่รวบรวมมนต์เสน่ห์แบบเวียดนามไว้หลายมิติ มีทั้งชายหาดที่สวยงาม มีสถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศส มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เป็นเมืองที่ประดับประดาด้วยแสงไฟ มีสะพานมังกรสุดทันสมัยตามแบบของสิงคโปร์ แต่ในขณะเดียวกันชาวดานังยังคงใช้วิถีชีวิตดั้งเดิมแบบเวียดนาม และเคารพความศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนา



สถานที่ 2
บานาฮิลล์
บานาฮิลล์ (Ba Na Hills) สถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมของเมืองดานัง เป็นสถานที่ตากอากาศที่มีความงดงาม และยังเป็นแหล่งรวมทุกความสนุกและความบันเทิงอย่างครบครัน เมืองแห่งความสนุกที่ถูกเนรมิตขึ้นบนยอดเขาสูง มีทั้งโรงแรมที่พัก วัด หมู่บ้านฝรั่งเศส สวนสนุก สวนดอกไม้ และมีกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก พร้อมกับสะพานลอยฟ้าโกลเด้น (Golden Bridge) ซึ่งเป็นสะพานริมเขาสุดอลังการแห่งใหม่ อากาศบนบานาฮิลล์ใน 1 วันมี 3 ฤดูกาล คือ อากาศจะเย็นสบายในช่วงเช้า อบอุ่นตอนกลางวัน และอาจมีฝนตกในยามบ่าย


สถานที่ 3
สะพานทอง (Golden Bridge)
สะพานลอยฟ้าริมหน้าผาที่สวยงาม แลนด์มาร์กแห่งใหม่ล่าสุดที่ตั้งอยู่บนบานาฮิลส์ มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น สะพานทองสูงจากระดับน้ำทะเลราว ๆ 1,400 เมตร ระยะทางทั้งหมดประมาณ 150 เมตร ตัวสะพานมีสีเหลืองทองสวยงามวางทอดอยู่บนอุ้งมือยักษ์คล้ายกับยกชูสะพานไว้ ดูสวยอลังการ เมื่อยืนอยู่บนสะพานสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ด้านล่างได้ด้วย


สถานที่ 4
ฮอยอัน
ฮอยอัน หรือ โห่ยอาน เป็นเมืองขนาดเล็กริมฝั่งทะเลจีนใต้ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดกว๋างนาม มีประชากรอาศัยอยู่ราว 80,000 คน อดีตเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมืองฮอยอันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อปี พ.ศ. 2542 เนื่องด้วยเป็นตัวอย่างของเมืองท่าที่ผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ และอาคารต่างๆภายในเมืองได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี


สถานที่ 5
วัดหลินอึ๋ง
อยู่บนเกาะเซินตร่า (Son Tra) ทางเหนือของเมืองดานัง ที่วัดแห่งนี้มีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมสูง 67 เมตร ตั้งอยู่บนฐานดอกบัว ฐานกว้าง 35 เมตร มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก รูปปั้นปูนขาวของเจ้าแม่กวนอิมยืนหันหลังให้ภูเขา หันหน้าออกสู่ทะเลเพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองชาวประมงที่ออกไปหาปลา ชาวเวียดนามนิยมมากราบไหว้ขอพรในเรื่องสุขภาพ การทำมาค้าขาย ความแคล้วคลาด และเรื่องขอบุตร


สถานที่ 6
พระราชวังเว้
พระราชวังเว้ (Imperial Citadel Hue) พระราชวังของเวียดนามที่ถอดแบบมาจากพระราชวังต้องห้าม หรือ “กู้กง” (Gu Gong) ที่อยู่กรุงปักกิ่ง เพราะว่ายุคนั้น จักรพรรดิเวียดนามได้รับอิทธิพลโดยตรงจากจีน อย่างไรก็ตามพระราชวังเว้แห่งนี้ มีขนาดเล็กกว่าพระราชวังวังต้องห้ามที่กรุงปักกิ่งอยู่มากทีเดียว แต่มีความเหมือนกันทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรม สี สัญลักษณ์ และตัวอักษร บริเวณพระราชวังมีพื้นที่กว่า 5.2 ตารางกิโลเมตร มีกำแพงสร้างล้อมรอบถึง 3 ชั้น มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Imperial Citadel คำว่า “Imperial” หมายถึงจักรพรรดิ ส่วนคำว่า “Citadel” คือป้อมปราการ
ป้อมปราการชั้นที่ 1 คือ ป้อมปราการเมืองหลวงเว้ (Kinh Thah Hue) คือกำแพงด้านนอกสุด สร้างด้วยหิน อิฐ และดิน สูง 8 เมตร หนา 20 เมตร ยาว 10 กิโลเมตร มีทางเข้า 10 ทาง และมีป้อมระวังภัย 24 ป้อม ล้อมรอบด้วยคูน้ำ
ป้อมปราการชั้นที่ 2 คือ ป้อมปราการหลวง (Hoang Thanh) สูง 6 เมตร ล้อมรอบพระราชฐาน วัง วัด และอุทยาน สิ่งที่นักท่องเที่ยวต้องการชมจะอยู่ในเขตกำแพงชั้นในนี้ สิ่งก่อสร้างที่สร้างในบริเวณกำแพงชั้นนี้ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าซาลอง โดยสร้างเลียนแบบพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่ง ประตูทางเข้าทั้งสี่ทิศตกแต่งอย่างงดงาม ด้านบนประตูมีหอคอยห้าปักษาวายุภักษ์ (เหลิ่วงู้ฟุ่ง) หลังคาตกแต่งด้วยกระเบื้องสีสันสดใส ตรงกลางใช้สีเหลือง ด้านข้างใช้สีเขียว อดีตเคยถูกใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิเมื่อเสด็จมาประกอบพิธีกรรมต่างๆ ปัจจุบันประตูเมืองทั้งสี่ประตูเปิดให้ประชาชนสามารถสัญจรได้
ป้อมปราการชั้นที่ 3 คือ ป้อมปราการต้องห้าม (Tu Cam Thanh) ภายในกำแพงเป็นที่ประทับของกษัตริย์ทั้ง 13 พระองค์ ในราชวงศ์เหงียนและครอบครัว



สถานที่ 7
สุสานจักรพรรดิไคดิงห์
สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Tomb of Khai Dinh) เป็นสุสานจักรพรรดิที่สร้างอยู่บนเนินเขา และเป็นสุสานเพียงแห่งเดียวของเวียดนามที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกกับสถาปัตยกรรมตะวันตก สุสานแห่งนี้ถูกสร้างในสมัยจักรพรรดิไคดิงห์ เพื่อใช้เป็นสุสานของพระองค์ แต่ยังไม่ทันสร้างสุสานแห่งนี้เสร็จ พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ไปเสียก่อน องค์พระเจ้าบ๋าวได่ พระราชโอรส จึงสร้างต่อจนแล้วเสร็จ สุสานแห่งนี้สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 11 ปี ทางเดินขึ้นสุสานได้รับการตกแต่งเป็นบันไดมังกรอันโอ่อ่าที่ จากนั้นมีบันไดต่อไปยังลานชั้นสองที่เรียงรายด้วยรูปปั้นหินของช้าง ม้า ข้าราชการทหารและพลเรือน กลางลานมีแผ่นจารึกเขียนด้วยอักษรจีน นิพนธ์โดยพระเจ้าเบ๋าได่ เพื่อรำลึกถึงพระบิดาของพระองค์ ส่วนด้านบนสุดเป็นพระราชวังเทียนดิงห์ ภายในตกแต่งสวยงามด้วยกระเบื้องสีปูพื้นจิตรกรรมฝาผนังภาพมังกรในม่านเมฆขนาดใหญ่ที่วาดโดยใช้ศิลปินที่เขียนภาพด้วยเท้า ประดับอยู่บนเพดานกลางห้องโถง ส่วนทางซ้ายและขวาเป็นภาพเฟรสโกอันเต็มไปด้วยสีสันที่ตกแต่งด้วยการฝังกระจกสีและกระเบื้องนับพันชิ้น แสดงถึงเรื่องราวมากมายของสัตว์ ต้นไม้ และดอกไม้ ตลอดจนรูปปั้นสำริดขนาดเท่าองค์จริงของพระเจ้าไคดิงห์ ซึ่งสร้างที่ฝรั่งเสศในปี พ.ศ. 2465 ตั้งอยู่บนยกพื้นด้านบนของสุสาน



สถานที่ 8
นั่งเรือกระด้ง
เรือกระด้งเป็นเรือไม้ไผ่สานเหมือนเป็นฝาชี แล้วเอาน้ำมันสนเคลือบอีกทีกันน้ำเข้า อดีตชาวเวียดนามจะเอาไว้สัญจร และใช้ขนของระหว่างเรือลำใหญ่ ในปัจจุบันนำมาใช้ในการท่องเที่ยว พานักท่องเที่ยวนั่งเรือตะกร้า ล่องไปตามแม่น้ำชมระบบนิเวศน์และธรรมชาติ



สถานที่ 9
สะพานมังกร
สะพานมังกร (Dragon Bridge) คือ สะพานข้ามแม่น้ำฮัน (Han River) ที่เมืองดานัง ที่สุดของแลนด์มาร์กที่เมืองดานัง สะพานมังกร ไฟเป็นสัญลักษณ์ความสำเร็จแห่งใหม่ของเวียดนาม สะพานมีความยาว 666 เมตร ความกว้างเท่าถนน 6 ช่องจราจร เป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนประเทศและการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และเปิดให้บริการสู่ประชาชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556 เพื่อฉลองครบรอบ 38 ปีของอิสรภาพเมืองดานัง โดยสะพานถูกออกแบบและสร้างในรูปร่างของมังกร นอกจากนี้ยังมีการแสดงไฟที่จะเปลี่ยนสีสันไปมาบนตัวมังกร และที่พิเศษไปกว่านั้นคือมังกรจะพ่นไฟและน้ำในทุกๆ คืนวันเสาร์และอาทิตย์


สถานที่ 10
ล่องเรือแม่น้ำหอม (The Perfume River)
การนั่งเรือมังกรล่องแม่น้ำหอมนั้นนับเป็นสถานท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีให้เลือกหลายรูปแบบตั้งแต่การล่องเรือไปตามแม่น้ำเพื่อแวะชมพระราชสุสานของเหล่าจักรพรรดิราชวงศ์เหวียนหรือจะล่องจากตัวเมืองมายังวัดเทียนมู่ชมเจดีย์ 7 ชั้นระหว่างทางจะได้พบกับหมู่บ้านชาวน้ำให้เห็นอยู่เป็นระยะซึ่งใช้เรือเป็นที่อยู่อาศัย มีอาชีพจับปลา และขุดทรายในแม่น้ำมาขายให้พ่อค้าคนกลาง ช่วงเย็นนั้นนักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือไปตามสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆแทน บรรยากาศกลางลำน้ำ พร้อมฟังเพลงจากสาวชาวเวียดนาม ที่มาฟ้อนรำและบรรเลงดนตรีเพลงพื้นบ้านให้ฟังกันสดๆ ซึ่งในอดีตการฟ้อนรำและการบรรเลงเพลงพื้นบ้านนี้ เป็นการเล่นถวายให้กับจักรพรรดิเท่านั้น



จองทัวร์ตอนนี้
กรุณากรอกรายละเอียดด้านล่างให้ครบ

บริษัท เอ เอ อาร์ แอ็ดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด
โครงการซิตี้คอนเนค เลขที่ 55/93 หมู่ที่ 8 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร 10150
Travel License: 11/08994
(ใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยวเลขที่ 11/08994)
เวลาทำการ
จันทร์-ศุกร์ : 08.30-17.30 น.
